จี้ รับมือ RCEP ก่อน 5ชาติ ยึดไทยศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน

จับตา RCEP ไทยต้องพร้อมรับมือ ก่อนที่จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ยึดไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในการกระจายสินค้าไปทั่วโลก
นายสายัณห์ จันทร์วิภาสวงศ์ ที่ปรึกษาเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่าราวต้นปีหรือกลางปี2564 อาจจะมีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ซึ่งก็คือ asean + 5 ซึ่งเป็นความตกลงการค้าระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับ BRI ( Belt and Road Initiative)
สายัณห์ จันทร์วิภาสวงศ์
“ความจริงต้องเป็น asean + 6 แต่อินเดียกลัวเสียเปรียบดุลการค้าจีนบวกกับเรื่องการเมือง อินเดียจึงยังไม่พร้อม ส่วนอีก 5 ประเทศคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มการค้าระหว่างประเทศที่ใหญ่มากของโลก ถ้ารัฐบาลไทยไม่เตรียมตัวรับมือ สิ่งที่จะตามมาคือ5ชาติจะบุกไทยเข้มข้นขึ้นและยึดไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในการกระจายสินค้าไปทั่วโลก”
ทั้งนี้การค้าระหว่างไทยกับ RCEP จะมากขึ้น การค้าและบริการใหม่ๆที่มีเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญจะมีบทบาททางการค้าและการลงทุนใน asean มากขึ้น เช่น สินค้าจากอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีจาก 14 ประเทศเมื่อเข้าไทยจะได้รับการยกเว้นอากรขาเข้ามากขึ้น สินค้าไทยก็จะได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าใน 14 ประเทศเช่นกัน จะมี 5 ชาติคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เข้ามาลงทุนธุรกิจ Logistics ในไทยมากขึ้น เพื่อครอบคลุมระบบ Logistics ใน GMS ( Greater Maekhong Subregion มี 6 ประเทศ คือ จีนตอนใต้ ลาว เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา และไทย )
รวมทั้ง ASEAN และ อินเดีย เพราะปัจจุบันไทยสามารถไปอินเดียทางบกผ่านแม่สอดไปเมียวดี ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ซึ่งเป็นเมืองทางเหนือของเมียนมา เข้าสู่หมู่บ้าน Moreh ของแคว้นมณีปุระในอินเดียโดยใช้เวลา เพียง15-20 วัน และหากถนนจาก Moreh ถึงมัณฑะเลย์ระยะทาง 400 กม ปรับปรุงเรียบร้อย รถบรรทุกสินค้าจากแม่สอดจะถึงแคว้นมณีปุระของอินเดียไม่เกิน 12 วัน ในขณะที่หากสินค้าไปทางเรือจากแหลมฉบังไปแคว้นมณีปุระจะใช้เวลา 25 วัน
ดังนั้นเส้นทางจากแม่สอดถึงอินเดียจึงเป็นเส้นทางขนส่งทางบกที่จะมีบทบาทมากขึ้นในเวลา 2-3 ปีนับจากปี 2563 จีนได้เตรียมพัฒนาเมืองเมียวดีซึ่งอยู่ตรงข้ามแม่สอดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อรองรับเส้นทางดังกล่าว เพราะจีนตอนใต้มีพื้นที่ติดลาว เมียนมา อินเดีย จีนตอนใต้ได้แก่ คุนหมิง เฉินตู กว่างสี ซึ่งใกล้ประเทศไทยมาก จีนใช้เส้นทาง R3A จากคุน หมิงผ่านเชียงรุ้ง บ่อหานเข้าลาวที่บ่อเต็นไปห้วยทรายและทะลุเข้าเชียงของในเชียงรายโดยใช้เวลา เพียงแค่ 2 วัน ทุกวันนี้ผลไม้ ดอกไม้ และสินค้าจีนผ่านจากจีนตอนใต้เข้าไทยตามเส้นทาง R3A และ R3B (เข้าไทยที่แม่สาย เชียงราย )และท่าเรือเชียงแสนในเชียงราย รวมถึงเข้าไทยผ่านท่าแขกของลาวตามเส้นทาง R12 เข้านครพนมการค้าระหว่างประเทศนับวันจึงมีบทบาทมากขึ้นโดยเฉพาะใน asean อเมริกา อังกฤษ ยุโรป จึงพยายามเจรจา FTA กับ asean เพื่อการค้าการลงทุนใน asean หากพรรคเดโมแครตได้เป็นประธานาธิบดีในเดือน พ.ย. 2563 อเมริกาน่าจะกลับเข้ากลุ่ม CPTPP และอังกฤษหลังจากออกจาก EU ก็คงอยากเจรจา FTA กับ asean และไทย
จับตา RCEP ไทยต้องพร้อมรับมือ ก่อนที่จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ยึดไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในการกระจายสินค้าไปทั่วโลก
นายสายัณห์ จันทร์วิภาสวงศ์ ที่ปรึกษาเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่าราวต้นปีหรือกลางปี2564 อาจจะมีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ซึ่งก็คือ asean + 5 ซึ่งเป็นความตกลงการค้าระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับ BRI ( Belt and Road Initiative)
สายัณห์ จันทร์วิภาสวงศ์
“ความจริงต้องเป็น asean + 6 แต่อินเดียกลัวเสียเปรียบดุลการค้าจีนบวกกับเรื่องการเมือง อินเดียจึงยังไม่พร้อม ส่วนอีก 5 ประเทศคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มการค้าระหว่างประเทศที่ใหญ่มากของโลก ถ้ารัฐบาลไทยไม่เตรียมตัวรับมือ สิ่งที่จะตามมาคือ5ชาติจะบุกไทยเข้มข้นขึ้นและยึดไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในการกระจายสินค้าไปทั่วโลก”
ทั้งนี้การค้าระหว่างไทยกับ RCEP จะมากขึ้น การค้าและบริการใหม่ๆที่มีเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญจะมีบทบาททางการค้าและการลงทุนใน asean มากขึ้น เช่น สินค้าจากอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีจาก 14 ประเทศเมื่อเข้าไทยจะได้รับการยกเว้นอากรขาเข้ามากขึ้น สินค้าไทยก็จะได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าใน 14 ประเทศเช่นกัน จะมี 5 ชาติคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เข้ามาลงทุนธุรกิจ Logistics ในไทยมากขึ้น เพื่อครอบคลุมระบบ Logistics ใน GMS ( Greater Maekhong Subregion มี 6 ประเทศ คือ จีนตอนใต้ ลาว เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา และไทย )
รวมทั้ง ASEAN และ อินเดีย เพราะปัจจุบันไทยสามารถไปอินเดียทางบกผ่านแม่สอดไปเมียวดี ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ซึ่งเป็นเมืองทางเหนือของเมียนมา เข้าสู่หมู่บ้าน Moreh ของแคว้นมณีปุระในอินเดียโดยใช้เวลา เพียง15-20 วัน และหากถนนจาก Moreh ถึงมัณฑะเลย์ระยะทาง 400 กม ปรับปรุงเรียบร้อย รถบรรทุกสินค้าจากแม่สอดจะถึงแคว้นมณีปุระของอินเดียไม่เกิน 12 วัน ในขณะที่หากสินค้าไปทางเรือจากแหลมฉบังไปแคว้นมณีปุระจะใช้เวลา 25 วัน
ดังนั้นเส้นทางจากแม่สอดถึงอินเดียจึงเป็นเส้นทางขนส่งทางบกที่จะมีบทบาทมากขึ้นในเวลา 2-3 ปีนับจากปี 2563 จีนได้เตรียมพัฒนาเมืองเมียวดีซึ่งอยู่ตรงข้ามแม่สอดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อรองรับเส้นทางดังกล่าว เพราะจีนตอนใต้มีพื้นที่ติดลาว เมียนมา อินเดีย จีนตอนใต้ได้แก่ คุนหมิง เฉินตู กว่างสี ซึ่งใกล้ประเทศไทยมาก จีนใช้เส้นทาง R3A จากคุน หมิงผ่านเชียงรุ้ง บ่อหานเข้าลาวที่บ่อเต็นไปห้วยทรายและทะลุเข้าเชียงของในเชียงรายโดยใช้เวลา เพียงแค่ 2 วัน ทุกวันนี้ผลไม้ ดอกไม้ และสินค้าจีนผ่านจากจีนตอนใต้เข้าไทยตามเส้นทาง R3A และ R3B (เข้าไทยที่แม่สาย เชียงราย )และท่าเรือเชียงแสนในเชียงราย รวมถึงเข้าไทยผ่านท่าแขกของลาวตามเส้นทาง R12 เข้านครพนมการค้าระหว่างประเทศนับวันจึงมีบทบาทมากขึ้นโดยเฉพาะใน asean อเมริกา อังกฤษ ยุโรป จึงพยายามเจรจา FTA กับ asean เพื่อการค้าการลงทุนใน asean หากพรรคเดโมแครตได้เป็นประธานาธิบดีในเดือน พ.ย. 2563 อเมริกาน่าจะกลับเข้ากลุ่ม CPTPP และอังกฤษหลังจากออกจาก EU ก็คงอยากเจรจา FTA กับ asean และไทย